ทำไมต้องเป็น Drive C:

ทำไม Drive C
(A , B หายไปไหน?)

ทุกคนที่ใช้คอมพิวเตอร์คงต้องรู้จัก ไดรฟ C
เนื่องจากเป็นไดรฟหลักที่มีระบบปฎิบัติการ ข้อมูลต่างๆที่เซฟไว้ ก็จะมาเก็บที่ไดรฟนี้

หากเครื่องมี อุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ เช่น ช่อง DVD เสียบแฟลชไดร์ฟ หรือ มีแบ่งไดรฟมากกว่าหนึ่ง
ตัวอักษรก็จะไล่จาก D E F G … ไปเรื่อยๆ

แต่เคยสงสัยไหม A กับ B หายไปไหน ?
ทำไมไม่เริ่ม ที่ A ก่อน ?

======================

ทุกวันนี้ เราแค่กดปุ่ม power เสรจแล้วรอแป๊ปเดียว ก็เข้ามาหน้าวินโดว์ ใช้งานได้เลย

แต่คอมพิวเตอร์สมัยก่อน ไม่มีHarddisk แบบทุกวันนี้!!!

หลังจากเปิดเครื่องต้องใส่แผ่นบูตก่อน แล้วจึงใส่แผ่นเปิดโปรแกรม

โดยต้องใส่แผ่นพลาสติก ใหญ่ๆ เรียกว่า แผ่นดิสก์ (Floppy Disk) ขนาด 5.25 นิ้ว ( รูปกลาง) เข้าไปในช่องหัวอ่านแผ่นหน้าเครื่อง แล้ว”พิมพ์”คำสั่ง

คอมพิวเตอร์จะมีช่องที่ว่านี้ อยู่ 2 ช่อง
ช่องแรก คือ Drive A: อีกช่อง คือ Drive B:

โดยช่วงต่อมา Harddisk เริ่มมีราคาที่ถูกลง จึงกลายมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ใส่ในเครื่อง PC และ กำหนดให้เป็น Drive C : นับแต่นั้นเป็นต้นมา

======================

หลังจากนั้น อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์เริ่มพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด มีระบบปฎิบัติการ MS-DOS และ ระบบ Windows ได้พัฒนาให้ใช้งานได้ยิ่งขึ้นมาก
ตัวFlopply disk เอง ก็มีขนาดที่เล็กลง แต่ความจุมากขึ้น เหลือแค่ 3.5”

หากยังมีเครือง PC ที่ซื้อมาประมาณปี 2000 จะยังมี Drive A: ที่หน้าเครื่องอยู่เป็นมาตรฐาน

======================

เพิ่มเติม
ถึงแม้ว่า ตอนลงวินโดว์เครื่องจะบังคับติดตั้งที่ C แต่หลังจากนั้นเราสามารถเปลี่ยน ตัวอักษร Drive เป็นตัวอื่นได้จากในเครื่องเราเอง

ทีนี้ก็รู้ที่มาแล้วนะ ว่า Drive A กับ Drive B หายไปไหน 

======================

ติดตาม Fan Page ของ TRUE IT ได้ที่

Facebook.com/TrueITComputers